เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมโรงแรมเดอะริเวอร์รี บาย กะตะธานี อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เป็นประธานในการประชุม “เชียงราย โกลบอล รันนิ่ง ซัมมิท ครั้งที่ 2” ซึ่งทาง จ.เชียงราย ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยและภาคเอกชน มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-23 ต.ค.นี้ ซึ่งพบว่ามีบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก
และจากนั้น วันที่ 23 และ 25 ตุลาคม จะเป็นการจัดกิจกรรมวิ่งยูเมะพลัส เชียงราย 21.1 มาราธอน 2020 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 25 ต.ค.นี้โดยมีจุดเริ่มต้นจากวัดร่องขุ่น ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญไปเขาเส้นชัยที่สวนตุงและโคมนครเชียงราย อ.เมืองเชียงราย และยังแบ่งการแข่งขันเป็น 2 ระยะคือ ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร และ ระยะทาง 10 กิโลเมตร นายกฤชเพชร กล่าวว่า จ.เชียงราย มีความยินดีและความพร้อมในการจัดการประชุมและการแข่งขันทั้ง 2 รายการ หลังจากเมื่อปี 2561 เคยจัดมาครั้งหนึ่งแล้วและได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างดี และช่วยสร้างเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจได้กว่า 300 ล้านบาท
สำหรับปีนี้จะมีนักวิ่งจากทั่วโลกไปร่วมประมาณ 5,000 คน ซึ่งยืนยันว่าไม่ผิดหวังกับภูมิประเทศ อากาศ ประเพณีวัฒนธรรมและความสวยงามของ จ.เชียงราย และเชียงรายยังเป็นเมืองประวัติศาสตร์และศิลปะรวมทั้งดินแดนแห่งสามเหลี่ยมทองคำ จึงได้ดำเนินการจัดการแข่งขันเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานนิวนอร์มอลที่เน้นความปลอดภัยและมีการปิดถนนเต็มรูปแบบ 100% ในช่วง 1 กิโลเมตรก่อนเข้าเส้นชัยเพื่อให้การแข่งขันนี้คงอยู่คู่กับพื้นที่ในอนาคตต่อไป
ดร.นายแพทย์ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการ สสส. กล่าวว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ใช้หลักการดูแลแบบนิวนอร์มอลอย่างจริงจังโดยลดความแออัด รักษาระยะห่าง ล้างมือ ทำความสะอาดผิวสัมผัส สวมหน้ากากอนามัยทั้งเข้าและออกงาน จัดให้ลงทะเบีนผานแอปพลิเคชั่น ฯลฯ ซึ่งจะสร้างความมั่นใจแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเรื่องความปลอดภัยได้เป็นอย่างดี
ด้าน พล.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่าประเทศไทยจัดการวิ่งปีละกว่า 1,500 งาน สร้างเงินหมุนเวียนปีละเกือบ 100,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าอุตสาหกรรมวิ่งในเอเชียกำลังเติบโตไปสู่ระดับโลกมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นสมาคมจึงร่วมกับสมาพันธ์กรีฑาแห่งเอเชียหรือเอเอเอ เตรียมยกระดับการจัดงานวิ่งในเอเชียต่อไป.